การนำเงินในอนาคตมาใช้ อาจทำให้คุณใช้จ่ายเกินตัว และเกิดภาระหนี้สินติดพันมากมายจนถึงขั้นหมดเนื้อหมดตัวได้ ดังนั้นก่อนจะทำบัตรเครดิต หรือเป็นหนี้เงินกู้ต่าง ๆ ควรคิดให้รอบคอบ และประเมินตัวเองว่ามีความสามารถที่จะจัดการกับหนี้สินที่จะเกิดขึ้นได้จริง ๆ หรือไม่
การเป็นหนี้ส่วนบุคคล เปรียบเสมือนคุณนำเงินในอนาคตมาใช้จ่ายล่วงหน้า ไม่ว่าจะเป็นการซื้อโทรศัพท์มือถือ กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า ซึ่งการใช้บัตรเครดิตนั้น ทำให้คุณมีความสะดวกสบายในการจับจ่ายใช้สอย สามารถซื้อสินค้าที่มีราคาสูงได้ โดยที่ไม่ต้องใช้เงินในปัจจุบัน และสามารถนำเงินจากบัตรเป็นเงินสำรองในกรณีฉุกเฉินได้ แต่ก่อนจะเลือกใช้บริการบัตรเครดิต หรือสินเชื่อส่วนบุคคล คุณควรมีการพิจารณารายละเอียดให้รอบคอบเสียก่อน หรืออาจเรียกว่า “วางแผนให้ดีก่อนเป็นหนี้” จะเห็นว่า บัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคลนั้น มีคุณอนันต์ กล่าวคือ สามารถนำเงินอนาคตมาใช้ก่อนได้ ในกรณีที่เราเกิดเหตุฉุกเฉิน แถมยังมีการจัดแคมเปญ สะสมแต้มเพื่อแลกของสมนาคุณ จูงใจลูกค้าให้ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต ส่วนสินเชื่อส่วนบุคคลก็มีโปรโมชั่นกู้ฟรีแถมไม่มีดอกเบี้ยด้วย ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ เพียง 2-3 เดือน แต่อย่าลืมว่าของฟรีไม่มีในโลก การกู้ฟรีบางทีก็มีโทษมหันต์เหมือนกัน
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่เป็นหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล และยังไม่รู้ว่าจะต้องแก้ปัญหาอย่างไรนั้น มีวิธีการจัดการกับหนี้ทั้งสองง่ายๆ ดังนี้
1. รวบรวมหนี้ทั้งหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลทั้งหมด เพื่อให้รู้จำนวนหนี้ทั้งหมดในปัจจุบันว่าเป็นเท่าไร
2. แยกประเภทหนี้บัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคล เพื่อเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยจ่าย โดยชำระหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าก่อน เช่น จ่ายหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลที่มีดอกเบี้ยสูงกว่า ก่อนหนี้บัตรเครดิต
3. ลดปริมาณการใช้บัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคล หากปัจจุบันใช้บัตรหลายใบ ให้คงเหลือใช้เพียง 1 ใบ เพื่อรักษาวินัยในการใช้จ่าย
4. หยุดการก่อหนี้เพิ่ม และตั้งใจชำระหนี้อย่างมีวินัย หาทางเพิ่มรายได้และลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นเพื่อให้สามารถชำระหนี้ได้มากขึ้น
เมื่อปลดภาระหนี้แล้ว ควรวางแผนการเงินแบบง่ายๆ ด้วยตัวเอง หมั่นทำรายรับ-รายจ่ายในแต่ละวัน เพื่อให้รู้ว่าเงินที่ใช้หมดไปกับอะไรบ้าง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น